
Make Up How : 2in1 Style
เป็นการแต่งหน้า 2 สไตล์ภายในวันเดียวกันโดยใช้วิธีเพิ่มเฉดสีที่เข้มขึ้นก็จะเป็นอีกสไตล์นึงใช้ได้ทั้งงานสุภาพกลางวันและงานเลี้ยงกลางคืนนะคะ
Pround to be yourself
ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองไปเป็นแบบไหน แต่ลึก ๆ แล้วเราควรภูมิใจในความเป็นเรา ความเป็นหนึ่งเดียวของเรา
Make Up How To : Golden Sunshine
ลุคสาวผิวสีน้ำผึ้งแทนจะแต่งโทนสีทองน้ำตาล ผิวลุคฉ่ำ ๆ ดูโกลว์ขึ้นมาก ชอบมาก เลยต้องเปลี่ยนสีผิวตัวเอง ลองดูซักที ใครที่ผิวสีน้ำผึ้งไม่ต้องไปทำให้ขาวหรอกค่ะ สวยน่าอิจฉาจะตาย
Psychology : The meaning of Color
จิตวิทยาการเลือกใช้สีต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การเลือกสิ่งของ เครื่องใช้ การแต่งหน้า แต่งตัวทั้งหลาย บ่งบอกถึงบุคลิคภาพ และ ความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเรา บางครั้งเอิ๊กเลือกสีเสื้อผ้าไม่ถูก ก็พึ่งหนังสือพวกนี้แหละค่ะ มาหาชุดใส่ให้เหมาะสมกับโอกาสแต่ละงาน ก็ใครจะถนัดไปซะทุกอย่างจริงไหม เลือกที่ดี รู้สึกดี จิตใจก็พลอยมีความสุขด้วย
COMPLEXION ANALYSIS
การตรวจผิวหน้าแบบล้ำลึกด้วยเทคโนโลยีฉายแสงยูวี เพื่อตรวจวิเคราะห์สภาพผิวหนังภายใน ถามว่าละเอียดไหม ดีในระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่ 100% เช็คเพื่อที่จะได้ทราบโอกาสการเกิดปัญหาผิวเบื้องต้น และ อนาคต ว่าริ้วรอย สิว ตีนกา มีโอกาสผุดขึ้นมากน้อยแค่ไหนจะได้แก้ทัน บอกได้คำเดียว " จะเป็นลม" ค่ะ
LET'S CARE OUR SKIN
ผิวก็หิวได้นะคะ ปกติก็ไม่ค่อยได้ดูผิวทั่วเรืองร่างเท่าไหร่ แต่การขี้เกียจส่งผลในระยะยาวข้างหน้า ยังไงดูแลผิวหน้าก็อย่าดูแลผิวกาย ควบคู่ไปด้วยกัน สามารถคลิกชม Review ต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ BEAUTY TAGS : SKINCARE ด้านซ้ายมือมีทั้งบทความเก่าและใหม่ ขอให้ทุกคนผิวสวย ใส กันทุกคนนะคะ
SLANG LANGUAGE
BB , IPHONE, IPAD ,HTC, SAMSUNG, IPAC, MAC, PC และ โปรแกรม Chat ทั้งหลาย เคยไหมเจอตัวอักษรย่อแปลกๆเช่น YM, TTYL, YLY ที่พิมมาแล้ว GUงง ? ก็ไม่ได้เก่งอังกฤษจ๋ากันทุกคน ไม่เป็นไรวันนี้ไปหามาฝากกัน ศัพท์ INTERNET SLANG พิมมาเหอะคราวนี้ GET ล่ะ

HOROSCOPE FOR MAKE UP
เอาใจสาว ๆ ด้วยการหาเนื้อหาการแต่งหน้ากับการเลือกใช้สีเสริมดวง สัญญาไว้ว่าจะมาอ่านให้ฟัง หวังว่าคงลืมกันไปแล้วเพราะไม่เห็นใครทวง แต่งสีไหนดับ แต่งสีไหนเด้ง รวย เฮง สรุปย่อมาให้แล้ว แล้ววันดีคืนนี้จะมาบรรยายลักษณะสาวทั้ง 12 ราศีให้นะคะเจ้าคะ
HAIR CARE/HAIR CUT
เรื่องของผม รักผม ผมรักคุณ คุณรักผม จะว่าไปไม่ค่อยเก่ง แต่อยากหัดทำเอง เพราะไปร้านบางทีก็ไม่ค่อยถูกใจ ช่างผมคนเดิมอาจจะเก่งแค่บางอย่าง เลยต้องหัดไว้บ้าง ไม่เก่งแต่อุปกรณ์เพียบ ผมเปลี่ยนสไตล์ และ ความรู้สึกเวลาคนอื่นมองมาหาคุณได้ ไม่เชื่อต้องลองดู แต่อย่าลืมบำรุงกันนะคะ ผมควรสวยมากกว่าเสีย
MAKE OVER
"เราแค่อยากให้คนอื่น คนที่เรารัก คนรอบตัวเรา รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น" ที่เรียกว่า MAKE OVER เป็นคนบุคคลเหล่านี้ไม่แต่งหน้า ถึง แต่งหน้าบาง ๆ น้อยมาก เราก็จัดมาลองฝีมือ อยากให้เขาเห็นความสวยงามของตัวเองในมุมที่แปลกไป ให้เขารู้สึกพิเศษในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เห็นแล้วแม้อาจจะแต่งออกมาไม่ได้ดี แต่เราก็เต็มที่ ทั้งกาย และ ใจ
BEAUTY TAGS
- ABBREVIATION (1)
- ABOUT ME (1)
- ACNE (13)
- BEAUTY TECHNOLOGY (4)
- BLOGGER (1)
- BODY (2)
- CHARITY (2)
- CHEEK (1)
- CONTACT LENS (8)
- CONTEST (1)
- DECORATION (1)
- DHAMAR (4)
- ENTERTAINMENT (1)
- ERK-ERK (29)
- EYES (2)
- FACE (8)
- FEET (2)
- HAIR (14)
- HEALTHY (4)
- HOROSCOPE (14)
- HOW TO (41)
- IT : GADGET (11)
- JOKE (1)
- LASER (5)
- MAKE OVER (8)
- MAKE UP (54)
- MINERAL MAKE UP (37)
- NAIL (2)
- PAI (1)
- PERSONAL DEVELOPMENT (4)
- PSYCHOLOGY (3)
- QUESTIONS - ANSWERS (7)
- REVIEW (4)
- SHOPPING (3)
- SKIN CARE (17)
- WORKSHOP (1)
- YOUTUBE RECOMMENDED (12)
BEAUTY CALENDER
- January (2)
- October (1)
- September (2)
- August (1)
- July (3)
- December (2)
- October (1)
- September (1)
- August (4)
- May (1)
- April (2)
- March (1)
- January (5)
- November (5)
- October (5)
- September (3)
- August (5)
- July (8)
- May (8)
- April (3)
- March (4)
- February (1)
- January (4)
- December (5)
- November (8)
- October (1)
- September (4)
- August (1)
- July (2)
- April (4)
- March (2)
- February (3)
- December (2)
- November (2)
- October (6)
- September (11)
- August (19)
- July (13)
- June (12)
- May (11)
- April (18)
- March (23)
- February (16)
- January (18)
- December (42)
- August (2)
อยากมีครีมเป็นแบรนด์ตัวเองที่ประสบความสำเร็จ กับ QUALITY PLUS และ ทดสอบสารอันตรายในเครื่องสำอาง ครีมบำรุง
11:53:00 PM // 0 Comments // Erk-Erk // Category: //อย่างที่เราเห็นกันในข่าวว่าการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางไทยปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นไทยกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องสำอางอันดับ 1 ของอาเซียน และ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเรื่องของโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ และการตอกย้ำความเป็นผู้นำในเอเชีย แน่นอนว่าภาครัฐยินดีให้การสนับสนุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ไกลไปสู่ระดับโลก ดังนั้นใครทำอะไรตอนนี้ สร้างแบรนด์วางตำแหน่งมาดี มีการกระจายการรับรู้อย่างทั่วถึง หรือ สร้างกระแสได้ดี มีผลิตภัณฑ์ความงามที่ตอบโจทย์สภาพผิวของคนแต่ละทวีปได้อย่างมีคุณภาพชัดเจน ครอบคลุม มีโอกาสสูงมากที่จะดังในประเทศ ซึ่งสามารถพัฒนากลายเป็นแบรนด์ที่ส่งออก และ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
ก่อนจะเข้าเรื่องอยากบอกความในใจนิดนึงระหว่างเอิ๊กฟังการนำเสนอภาพรวมของบริษัทอย่างเจาะลึก และ การถามคำถามที่เอิ๊กสงสัยก็ถามแบบเจาะลึกมาก เอิ๊กอยากบอกว่ามันเป็นการทำงานที่รู้สึกดีมากอีก 1 วัน แม้ระยะเวลาในการทำบล็อคนี้นานมาประมาณเกือบเดือน เนื่องจากว่าผู้หนึ่งบริหารที่นี่ และ ทีมQUALITY PLUS ให้ข้อมูล และ ตอบคำถามเอิ๊กแบบละเอียดมาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างเห็นภาพชัดเจน เอิ๊กบอกได้คำเดียวว่าจากเจตนารมณ์ที่เขามีเปิดรองรับลูกค้าทุกระดับ และ ที่สำคัญหนึ่งในทีมผู้บริหารก็คุยให้คำปรึกษาด้วยตัวเองทุกเคส ไม่ว่าลูกค้าจะมีเงินเริ่มต้นที่น้อย หรือ มาก เอิ๊กว่ามันเป็นการ SERVICE MIND ที่เอิ๊กพบน้อยมาก และ เป็นการให้บริการที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา หรือ พูดง่ายๆ เมื่อก้าวเข้ามาเป็นลูกค้า ให้คิดถึงว่า QUALITY PLUS จะดูแล และ คอยให้คำปรึกษาคุณตลอด และมันพิเศษมากกว่านั้น ที่ทุกข้อมูลขั้นตอนให้คำปรึกษาฟรี ข้อมูลแน่นมากที่สุดของที่สุด มีรายละเอียดชัดเจน พร้อมตัวอย่างอธิบายซึ่งลูกค้าที่อาจไม่มีความรู้ด้านนี้เลยให้เข้าใจได้ง่าย เอิ๊กรู้อยู่แล้วในใจระหว่างนั่งฟังข้อมูลว่ายังไงบริษัทนี้ต้องประสบความสำเร็จ และ เติบโตอย่างยิ่งใหญ่มากแน่นอน มันไม่ใช่เพราะเรื่องเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมที่เขาพยายามพัฒนา และ ใช้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอด แต่มันเป็นเรื่องของ "หัวใจ" ที่เขาอยากให้คนอื่นประสบความสำเร็จไปด้วยกัน กับธุรกิจที่เขาทำโดยผันตัวเองเป็นผู้สนับสนุนลูกค้าอยู่เบื้องหลังแบบครบวงจร ลูกค้าจะบอกต่อหรือไม่ก็ได้ เขาไม่ได้ติดเรื่องตรงนี้ อย่างที่วิสัยทัศน์ของที่นี่คือตั้งใจอยากปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง ให้มีคุณภาพเป็นเลิศเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลเอิ๊กว่าเขาทำได้ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นทีม แววตาและความมุ่งมั่นของทีมทุกคน ความมีน้ำใจที่จะเริ่มช่วยเหลือให้กับคนทุกระดับ QUALITY PLUS จะก้าวกระโดดไปมากกว่าวันนี้ที่เขาก็มาไกลขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว ขอให้รักษาวิสัยทัศน์ และ จุดยืนตรงนี้ไว้ตลอดไปค่ะ
Branding : ต้องแตกต่าง มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ มีพลังทำให้คนที่ได้เป็นเจ้าของรู้สึกดีถึงดีมากที่สุด ระดับสูงคือ ถ้ามีอาจหมายถึงการบ่งบอกสถานะคนใช้ มีไว้แล้วภูมิใจ คนพูดถึง คนจำได้
Cost planing : มีเงินอย่างเดียวไม่พอ การจะประสบความเร็จ กำไรเป็นอีกตัวหนึ่งที่ใช้วัดผลความสำเร็จ ดังนั้นเรื่องเงินทองต้องวางแผน ต้องวัดผลได้ ต้องประมาณการได้
Marketing : ถ้าเรารู้จักสินค้าเราคนเดียว หรือ ปากต่อปากกันไปอาจต้องใช้เวลา วางแผนใช้สื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มีการกระจายสินค้าไปยังที่อยู่ ที่หาซื้อได้ง่ายที่เข้าถึงได้ของกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงเร็ว ไว ของใช้ดี ซื้อง่าย เห็นบ่อยคนก็จะกลับมาซื้อซ้ำ
Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd. หรือ QUALITY PLUS เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2009-2013 มีกลุ่มลูกค้ามากกว่า100แบรนด์ เป็น Local brand [แบรนด์ในประเทศ] และยังมีสินค้าที่ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ รวมถึงมีสินค้าที่ผลิตกว่า 400 SKU
Target หลัก : ประเทศไทย
Target รอง : ประเทศพม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมีอีกหลายประเทศที่กำลังวางแพลนในอนาคต
ถ้าพูดอะไรวิชาการก็คงจะเบื่อ แต่อยากบอกว่าการสังเกตุฉลากสำคัญ แหล่งซื้อสำคัญ อย.สำคัญ เลขที่จดเเจ้งสำคัญ ถ้าเป็นเอิ๊ก เอิ๊กอยากแนะนำไม่่ว่าคุณจะเริ่มมีธุรกิจผลิตสกินแคร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ เอิ๊กอยากจะให้ทุกคนควรจะเรียนรู้เรื่องโครงสร้างของผิวพรรณมนุษย์ รวมไปจนถึงเรียนรู้ในเรื่องของโครงสร้างผิวของตัวเองเป็นพื้นฐานความรู้ อย่างละเอียด ถี่ถ้วน ซึ่งผิวของคนเรานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขึ้นกับหลายๆปัจจัยตามที่เอิ๊กได้กล่าวตลอดเวลาในบลอคเก่าๆของเอิ๊ก นี่คือสิ่งที่เอิ๊กอยากจะฝากไว้ให้กับทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะได้เริ่มอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร QUALITY PLUS
ในธุรกิจรับผลิตสกินแคร์หรือรับจ้างผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ จะมีชื่อเรียกเกี่ยวกับการให้บริการของธุรกิจ 3 แบบ
- OEM : Original Equipment Manufacturer เป็นการรับจ้างผลิตสินค้า
- ODM : Original Design Manufacturing การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์
- OBM : Original Brand Manufacturing Service การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์ + สร้างแบรนด์สินค้า + กำหนดตลาด + ผลิตบรรจุภัณฑ์ + วางแผนค่าใช้จ่าย + งานบริการในส่วนของการตลาดเพิ่มเติมเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจสูงสุดให้กับลูกค้า
ต้องการเป็น Trendsetter หรือผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมสกินแคร์ในระดับอาเซียน และมีนวัตกรรมใหม่ตลอดเวลา รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและมีคุณภาพในการผลิตเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เพื่อปฎิวัติวงการอุตสาหกรรมความงาม และเป็นการทำงานในลักษณะของ The best one stop services ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ
หัวใจหลักในการทำงานของQUALITY PLUS 3 ข้อ
1. การบริการแบบ OBM One Stop Service ที่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด
นอกจากการรับจ้างผลิตสกินแคร์เหมือนอย่างOEMตามปกติ ยังมีการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือสร้างความแตกต่างโดยการผลิตสกินแคร์เพื่อให้เป็นในแบบเฉพาะของลูกค้าในแต่ละคน ซึ่งเจาะลึกลงไปมากขึ้น จากนั้นก็จะมีการให้บริการทางดานพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ถ้าลูกค้าต้องการส่วนผสมหรือสารสกัดตัวไหน บริษัทก็จะยินดีที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและสารสกัดนั้นๆ รวมจนถึงงานวิจัยที่เคยเกิดขึ้นหรือมีอยู่เเล้ว เพื่อรองรับทั้งความปลอดภัยและประสิทธิผลของสารสกัดหรือส่วนผสมนั้นๆ ตามด้วยงานดีไซน์ ตั้งแต่แพคเกจ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะใส่สกินแคร์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้า โดยเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์สินค้า ตั้งแต่การวางตำแหน่งสินค้าทางการตลาด การกำหนด และการอธิบายกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มตามที่ลูกค้าต้องการและอยากจะอยู่ ณ จุดนั้นๆ รวมไปถึงการผลิตลงในบรรจุภัณฑ์หรือการเลือกขวดและกระปุกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสกินแคร์ของลูกค้า ยังมีส่วนของการช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายให้อย่างรัดกุม ทำให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนอย่างสูงสุด และมองถึงอนาคตที่ทำให้ลูกค้าได้มาซึ่งกำไร ต่อจากนั้นยังมีงานบริการในด้านการตลาดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย การกระจายสินค้า การช่วยหานางแบบในการโฆษณา การจัดงานอีเวนท์ พูดง่ายๆเป็นการสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าOBEMทุกระดับกับQUALITY PLUS
2. มีมาตรฐานการผลิตสกินแคร์แบบแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งมีการทำงานร่วมกับLABของบริษัทผู้นำนวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการผลิตสกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่น
QUALITY PLUSทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯใหญ่ๆทางญี่ปุ่น 3 ที่ โดยทางแลบฯญี่ปุ่นจะเป็นคนคิดค้นสูตรใหม่ๆขึ้นมา โดยการเริ่มใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่หรือการสกัดส่วนผสมใดๆก็ตาม และส่งให้ทางQUALITY PLUSเป็นผู้ผลิต หรือแม้แต่การหางานวิจัยรับรองส่วนผสมหรือสารสกัดนั้นๆที่ลูกค้าต้องการก็สามารถทำได้ รวมถึงทางญี่ปุ่นเองยังมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย [Safety] ในการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วย การทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯของทางญี่ปุ่นก็จะมีในเรื่องการแพทย์ การหาข้อมูลวิจัยต่างๆมาสนับสนุนส่วนผสมหรือสารสกัดต่างๆที่เป็นทั้งสูตรพื้นฐานของQUALITY PLUSหรือเป็นสูตรพื้นฐานที่คิดค้นขึ้นมาใหม่
3. ดำเนินงานในระบบ Project Management ด้วยบุคลากรมืออาชีพที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า และเป็นที่ปรึกษาวางแผนต้นทุนและการตลาดทุกในขั้นตอน
Project Management System : ระบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของ QUALITY PLUS เป็น signature ของบริษัท แตกต่างจากโรงงานที่มีแค่เซลล์ให้ข้อมูลในเรื่องของรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่ระบบนี้จะเน้นให้ข้อมูลเชิงลึกของทุกส่วนแบบ 360 องศา ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ จนถึงพัฒนา ผลิต ขายใหม่ โดยมีการนำเสนอออกมาเป็นรายละเอียดที่ชัดเจนเห็นภาพเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน
ระบบProject Management ประกอบด้วย
- Product Information
- Ingredient Information
- Cost Planning
- Branding Information
- Margketing
- Consulting Skill
- Creative Skill
- Timeline Planning
- Home Dealer หาตัวแทนจำหน่าย
- Affiliated Marketing เป็นระบบนิยมมากในต่างประเทศ เพราะแค่มีคอมก็สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ หลักคือ มีการแจกลิงค์ให้กับคนที่สมัครโปรแกรมซึ่งจะเป็นลิงค์ที่มีรหัสเฉพาะแตกต่างกันไป หากลิงค์ไหนมีคนคลิกเข้าไปแล้วซื้อสินค้าจากลิงค์นั้น ลิงค์นั้นก็จะได้รับเงินเป็นส่วนแบ่งเปรียบเสมือนค่าคอมมิชชั่น
QUALITY PLUS เน้นในเรื่องของการเป็นผู้นำในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เห็นผลค่อนข้างรวดเร็ว ชัดเจน และที่สำคัญต้องปลอดภัย จะให้ความสำคัญมากกับnanotechnologyมาใช้ในการผลิต เครื่องที่ใช้ผลิตก็จะเป็นเครื่องที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ปัจจุบันใช้เป็นเครื่องจากทางประเทศอิตาลีซึ่งปั่นเนื้อครีมให้ละเอียดเล็กมากๆเทียบเท่าตัวครีมพื้นฐานก็อยู่ระดับ 1 ไมครอน เพราะเทคโนโลยีการผลิตเหล่านี้จะทำให้เนื้อของสกินแคร์ซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดีกว่ามาก รวมถึงการทำให้ส่วนผสมของสกินแคร์มีอนุภาคที่เล็กมากอย่างเทคโนโลยี liposome
QUALITY PLUS มี FDA special list เป็นเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลเรื่องการจดแจ้งสกินแคร์ให้โดยเฉพาะ ก็จะเริ่มจากการตรวจสอบ ตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนถึงยื่นแจ้ง ป้องกันการตีกลับ หรือ โดนเอกสารจากทางอย.ว่า over claim ก็จะดูตั้งแต่การตั้งชื่อ ฉลาก รายละเอียดสำคัญที่ต้องระบุลงไปในสกินแคร์ รวมถึงเอกสารต่างๆให้ครบก่อนยื่น
QUALITY PLUS / ALL IDEA STUDIO / BEAUTY HOME-MART / CONSULTING 4 บริษัทหัวใจหลัก
เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้าที่เข้ามามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดการพัฒนาธุรกิจเริ่มต้นจาก TRADING ก็ปรับเป็น OBM ซึ่งมีบริษัทในเครือมารองรับการให้บริการให้ครบวงจร เป็นการแตกบริษัทให้เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทั้ง 4 บริษัท ทั้งหมดทำงานในเครือเดียวกัน เพียงแค่แต่ละบริษัทก็มีหน้าที่แยกไปทำเฉพาะของแต่ละฝ่าย ซึ่งเจ้าของมีหุ้นส่วนร่วมกัน โดยหุ้นส่วนแต่ละคนก็มีส่วนศูนย์กลางที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองไปดูแล
QUALITY PLUS : การผลิตสินค้า
ALL IDEA STUDIO : การวางแผนสื่อ การออกแบบ การทำอีเวนท์ การหาแบบโฆษณา และออกแบบPackaging
BEAUTY HOME MART : การหาตัวแทนจำหน่าย การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์
CONSULTING BUSINESS & DEVELOPMENT : ให้คำปรึกษาเชิงลึกของธุรกิจทั้งระบบ เช่น ด้านการตลาด การลงทุน การสร้างแบรนด์ การตั้งชื่อ
มีวิธีการหาลูกค้าแบบไหน หรือ ทำยังไงให้ลูกค้ารู้จัก QUALITY PLUS
BUZZ MARKETING หรือ การตลาดปากต่อปาก ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็ประสบความสำเร็จกันมาก กับการทำธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการทำการตลาดยุคดิจิตอลนี้ ก็จะชวนเพื่อนมา และ อาจจะมีเข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเพื่อแลกเปลี่ยน connection กัน และ มีเว็บไซด์ให้รายละเอียดชัดเจน
สารสกัด หรือ ส่วนผสมที่บอกว่าหางานวิจัยมารองรับให้ลูกค้าเสมอ อยากทราบว่ามีวิธีการวิจัยแบบไหนบ้าง
ถ้าในส่วนของสารสกัดขั้นตอนแรกต้องดูในเรื่องของการตลาด หรือ กระแส ว่าตัวไหนสามารถทำการตลาดได้ก่อน และ มีผลการวิจัย สนับสนุนไหม ในส่วนนี้มันจะมีชื่องานวิจัยทางด้านพฤกษาศาสตร์ที่สามารถ search แบบ worldwide ทั่วโลกได้ ว่าพืชชนิดนี้เคยมีการทำวิจัยไว้อย่างไร ถ้ามีสารสกัดที่ใกล้เคียงกัน มีผลงานวิจัยเหมือนกัน ก็จะนำมาเทียบเคียงสารสกัดที่สำคัญว่าตัวไหนมีมากกว่า ก็จะเลือกนำมาสกัดและผลิตเพื่อจัดจำหน่ายได้เลย หรือ ถ้าลูกค้ามีความต้องการให้สกัดสารจากพืชชนิดไหนที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทาง QUALITY PLUS ก็มีบริการเก็บ เฝ้า จดบันทึกระยะเวลาที่เก็บชนิดของสารที่จะนำมาสกัดให้ ต้องคอยควบคุมตัวแปรให้คงที่ตลอด และดูว่าเมื่อไหร่ที่สามารถสกัดสังเคราะห์สารที่เราต้องการออกมามากที่สุด ก็จะทำการสกัดให้เหมาะ พอดีเวลาที่สุด หลังจากนั้นจะมีการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญปริญญาเอก ทางด้านนั้น เช่น พืช ก็คือ DOCTOR ทางด้านพฤกษาศาสตร์ ก็จะเฝ้าตรวจดูสารในสิ่งที่เรานำมาสกัดอีกที ถ้าพบว่าตรงกัน ได้สารตามที่ต้องการ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอให้กับทางลูกค้า เพื่อรอผลิต และ จำหน่ายต่อไป
ส่วนผสมใหม่ที่เกิดขึ้นที่ยังไม่มีงานวิจัย หากลูกค้าต้องการมีการทดสอบกับผิวคนด้วยไหม
ปกติสารสกัดที่ยังไม่เคยมีใครทำ เราจะส่งตรวจกับหน่วยงานภาครัฐทางด้านกรมวิทยาศาสตร์ เพื่อแสดงความเป็นกลาง และ ทำอย่างถูกต้อง มีจรรยาบรรณ น่าเชื่อถือ ในการออกเอกสารการรับรองให้ ก็อาจจะมีส่วนการทดสอบในเรื่องของการแพ้และการระคายเคืองของสารสกัดเป็นหลัก แต่ไม่ถึงกับทำเป็นงานวิจัย เพราะนอกจากต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน 2 ปีขึ้นไป ก่อนที่เราจะทดสอบในคนได้ ก็ต้องมีเอกสารรายงานการทำงานวิจัยที่จะต้องส่งให้กรมจริยธรรมของประเทศไทยอนุมัตก่อนว่าสามารถทดสอบกับผิวมนุษย์จริงได้หรือไหม เพราะมันใช้ระยะเวลานาน นักธุรกิจ หรือ พูดกันถึงในแง่การลงทุน ก็ประมาณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก เกิดก่อนดังก่อน มีสิทธิ์ก่อนที่จะอยู่ยาว อยู่ทน อยู่นานกว่า เป็นเรื่องของโอกาส ถ้ามีแล้วส่วนใหญ่คนไทยคือทำเลย
ส่วนใหญ่ Active ingrdient จะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเสปน อเมริกา ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อนที่เขาจะนำมาจำหน่าย เขาจะต้องใช้เวลาทดสอบทำงานวิจัยประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่เขาจะมาจำหน่ายให้กับทางเรา
ทำไมต้องเลือก QUALITY PLUS ในการสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง
บริษัทที่เน้นมาทำด้านการตลาด การจัดจำหน่ายและการดีไซน์ให้ลูกค้าด้วยในเมืองไทยมีน้อยมาก เรามั่นใจ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นในลักษณะของการเน้นระดับการผลิตมากกว่า จะไม่เน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนา การวางแผน การออกแบบทุกขั้นตอนแบบเรา เนื่องจากมันเป็นการดูแลลูกค้าแบบผูกพันระยะยาว ส่วนใหญ่ก็อยากผลิตเป็น JOB BY JOB หรือ ครั้งต่อครั้งจบไป การทำแบบ OBM ดูแลครบวงจร ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องมาดูแลลูกค้า ตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา ตลอดอายุชีวิตแบรนด์ของเขา มันก็ต้องเป็นเรื่องของดูแลกันระยะยาว เราต้องช่วยกันพัฒนา วางแผนกันไปตลอด ลูกค้าโตเราโต เราพัฒนา ลูกค้าพัฒนา อย่างที่บอกเป้าหมายเราคือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆโดยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตลาด เราต้องการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมนี้ เพื่อที่จะก้าวออกไปในระดับสากล เราจึงมองเห็นว่าการที่เราจะก้าวไป มันเป็นพลังของคนกลุ่มเดียวไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการรวมตัวระดับประเทศ ผลักดันมันขึ้นไป เราจึงก้าวมาสู่การให้บริการครบวงจรอย่างจริงจัง OBM services be king คือ services ลูกค้าที่ทำแบรนด์ต่างๆ และความสำคัญของมันคือ 1.เราพัฒนาตัวสูตรให้ [ถ้าต้องการไม่มีค่าใช้จ่าย] 2. ช่วยดีไซน์ให้ลูกค้าแตกต่าง มีจุดยืน มีเอกลักษณ์เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า 3.ส่วนของการตลาดเราให้คำปรึกษา และ หาช่องทางให้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเรามั่นใจ ว่าเราดูแลและรักลูกค้าทุกระดับดีไม่แพ้ใคร และ เราพัฒนาตัวเอง รวมถึงเลือกเทคโนโลยีในการผลิตที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา
สมมุติมีลูกค้ามีความต้องการเหมือนกันเข้ามา อยากได้ครีมแบบเดียวกัน จะทำครีมสูตรซ้ำไหม
ต้องบอกลูกค้าก่อนว่าสูตรผลิตภัณฑ์มี 3 ประเภท อย่างแรกคือสูตรมาตรฐาน ถ้าเกิดลูกค้าเข้ามาแล้วบอกว่าอยากได้ whitening ก็จะมีสูตร whitening อีกหลายรายการให้เลือก ถ้าลูกค้าเลือกตรงกัน คือลูกค้ายอมรับแล้วว่าทำตัวสูตรมาตรฐานซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานที่อาจจะมีคนเลือกใช้เหมือนกันก็ได้ แต่ถ้าเกิดลูกค้าบอกว่าฉันไม่อยากเหมือนใคร ก็ให้ทำเป็นสูตรพัฒนาสูตรที่สอง โดยการพัฒนาสูตร ก็จะแบ่งเป็นสองแบบ คือ แบบที่เคยใช้ครีมต่างประเทศมาเอามาเป็นต้นแบบให้เราพัฒนา กับอีกแบบคือ เป็นความต้องการจากทางลูกค้าอยากให้เราพัฒนาอะไรให้บ้าง สูตรสุดท้าย สูตรที่ทำจากต่างประเทศมา ลูกค้าก็เลือกเลยจะเอาแบบของประเทศไหน ส่วนทางเราก็จะไปเรียงมาที่เป็นส่วนของสูตรต่างประเทศให้ลูกค้าลองทดสอบก่อนถ้าพอใจก็ค่อยไปที่ขั้นตอนต่อไปซึ่งจะเน้นไปทางญี่ปุ่น เกาหลี มองเอเชียเป็นหลักเพราะผิวคล้ายคนไทย และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ยังเลือกได้อีกจะให้ ข้น หนืด เหลว กำหนดได้ที่ / ตัวสารสำคัญก็กำหนดได้สารสำคัญ จะให้ขาว กระชับ ลดริ้วรอย ได้หมดลูกค้าเลือกได้ สีและกลิ่นก็เลือกได้ ธรรมชาติหรือสังเคราะห์ปรับได้หมด และ ถ้าเป็นสูตร 2 หรือ 3 ขึ้นไป สูตรที่พัฒนาทั้งหมด หรือปรับกัน ทางเราจะมีระบบบันทึกว่าสูตรนี้เป็นของลูกค้าท่านนี้ ก็จะไม่ได้รับทำซ้ำ ถ้าเกิดใครมาพัฒนาใจตรงกัน ลูกค้าคนแรกที่เลือกก่อนก็จะได้สูตรพัฒนาตัวนั้นไป ถ้าซ้ำจะไม่ทำเลย ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายแต่เป็นนโยบายของ QUALITY PLUS รวมถึงในกรณีเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่เป็นแบรนด์อื่น อย่างเช่น ถ้ามีใครถามทำที่นี่หรือเปล่า จะบอกทุกคนในทีม และ ทุกบริษัทในเครือ ว่าเป็นความลับลูกค้าเราไม่มีการเปิดเผย
ถ้า QUALITY PLUS เป็นผู้ผลิตรู้ขั้นตอนครบวงจรทุกอย่างมีผลิตแบรนด์ตัวเองจำหน่ายบ้างไหม
ไม่มีแน่นอน เราจะไม่ทำ house brand เลย บริษัทในเครือต่างๆ ของเราก็จะแจ้งเลยว่าลักษณะของธุรกิจที่เราทำ เราทำเพื่อสนับสนุนและรองรับลูกค้าที่สร้างแบรนด์เท่านั้น คือ เรามองในเรื่องของการเติบโตในลักษณะที่ถูกต้องตามจริยธรรมด้วยครับ มันไม่มีกฎหมายข้อบังคับว่าห้ามแต่ถ้าเราจะทำอะไรก็ตามในธุรกิจที่เราทำอยู่ให้มันเกิดขึ้นมาแข่งกับลูกค้า สู้เราทำธุรกิจที่ support ลูกค้าเราอีกทีดีกว่า ถ้าลูกค้าเราโต เราคิดในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตเราก็โตด้วย เราจะไม่แข่งกับลูกค้าของเราเอง แต่เราจะผลักดันเขาให้ไปถึงที่สุดที่เขาเป็นได้ ดูแลกันไปตั้งแต่ลงทุนด้วยเงินเพียงเล็กน้อยจนทุกวันนี้ บางแบรนด์เลย 7 - 8 หลักไปแล้ว เราก็ถือว่าเราก็ประสบความสำเร็จด้วยในธุรกิจที่เรายืนอยู่เช่นกัน
ความลับของแบรนด์ ลูกค้าจะมั่นใจได้แค่ไหน
ถามว่าถ้าฉันจ้าง QUALITY PLUS ผลิตตามข้อกำหนดของอย. ฉลากมันต้องระบุถึงผู้ผลิตอยู่แล้ว คนภายนอกถ้าอ่านเขาต้องเห็น เพียงแต่ว่าเราจะไม่ไปเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคหรือว่าลูกค้าเจ้าอื่นว่าฉันทำให้แบรนด์นี้ แบรนด์นี้นะ ไม่พูดเลย [ เอิ๊กถามก็ไม่พูด ไม่พูดจริงๆ 555 ] ทั้งที่ไม่ได้มีข้อบังคับ ถ้าเราพูด ถ้าเราใส่เป็น PORTFOLIO ในเว็บว่าเคยมีลูกค้าเป็นแบรนด์ไหนบ้าง ก็อาจจะมีคนมาทำกับเราอีกหลาบแบรนด์ก็ได้ แต่ว่าเราจะไม่ทำ ส่วนผสมเรียกว่าส่วนประกอบของครีมไล่ตั้งแต่มากสุดไปจนถึงน้อยสุดของผลิตภัณฑ์ยังไงก็ต้องบอก สิ่งที่จะไม่รู้คืออัตราส่วนแบรนด์ไหนใส่เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ที่บอกว่าQUALITY PLUSดูแลลูกค้าทั้งหมด จนถึงขั้นหาช่องทางกระจายสินค้าเพื่อจำหน่าย มีบ้างไหมที่ลูกค้าขายสินค้าของเขาไม่ได้
ต้องอธิบายก่อน บริการของเรามีครบวงจรจริง แต่ทุกส่วนไม่ได้บังคับให้ลูกค้าซื้อบริการเราทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจะแบ่งค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเป็นส่วนๆ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการที่เขาต้องการเฉพาะได้ ลูกค้าบางคนเก่งออกแบบ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าอยู่แล้ว เขาก็อาจไม่ได้พึ่งเรา เท่าที่ผ่านมาเราเติบโตขึ้นกว่า 500% กลับมาให้เราผลิตซ้ำประมาณ 80% ส่วนตัวถือว่า QUALITY PLUS success แต่ไม่ได้หมายความว่าอีก 20 % ไม่ได้สั่งเลย ก็อาจจะมาสั่งซ้ำ เพียงแต่เว้นช่วงไปยาวกว่า ซึ่งอัตราการสั่งซื้อก็ยังมีอยู่ครับ
มีลูกค้าที่เลิกทำไหม สาเหตุคืออะไร
มี 1 เคสที่บอกว่าอยากทำตลาดเพิ่ม แต่ว่ามีปัญหากับหุ้นส่วน เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะมาขอเริ่มตลาดใหม่โดยเป็นแบรนด์ใหม่แบรนด์นึงเลย ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของทางลูกค้าเอง
ลูกค้าเริ่มต้นต้องมีเงินทุนประมาณเท่าไหร่
ถามว่าเรารับลูกค้าทุกระดับไหม รับแต่ทุกระดับก็จะมีขั้นต่ำในการผลิตของแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเลือกสูตรในการผลิตแบบไหนทางเราจะขอต้นทุนเพื่อให้ดู และ วิเคราะห์ให้ ว่างบประมาณเท่านี้จะสามารถลงทุน และ ได้บริการอะไรบ้าง ก็จะเลือกเอาที่จำเป็นที่ต้องมี หรือ ต้นทุนคงที่เป็นหลักสำหรับคนที่งบน้อย 50,000 ก็สามารถสั่งผลิตได้แล้ว แต่ถ้าต้องการใช้บริการครบวงจรจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท เรียกว่านำเงินลงทุนมาซักก้อน พร้อมกับฝันได้เลย ทางเราก็จะให้คำปรึกษาตั้งแต่ต้นจนจบ และ ระหว่างทาง หรือ ตามแต่ลูกค้าต้องการจะปรึกษา ลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 80% จะเริ่ม 1 โปรเจค กับเราประมาณ 100,000 บาท เพราะจริงๆมันก็สัมพันธ์กับเรื่องของตัวตลาดที่ทางลูกค้าเลือกต้องการกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานรายได้แบบไหน รสนิยมแบบไหน เราก็ต้องเลือกใช้ตั้งแต่วัสดุ ตัวกระปุก มันก็ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของเรา เช่น ถ้าเราเลือกตลาดประมาณ C ถึง C+ รายได้พอมีพอใช้ อาจมีซื้อของใช้ส่วนตัวบ้างนิดหน่อย ก็อาจจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกก็ได้ กระปุกนึงก็ประมาณแค่สิบบาทก็จะไม่แพงมาก ทางเราจะมีตารางราคาให้ลูกค้า เลือกใส่ได้ตามงบประมาณที่เขามี และ ให้คำปรึกษาทางเลือกที่เหมาะสบกับงบประมาณเขา อย่างเต็มที่ที่สุด ยังไงก็แล้วแต่งบน้อยก็ทำได้ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่าเกรดของครีมมันก็ผันแปรไปตามงบประมาณที่เรามี โดยถ้าลูกค้ามีงบน้อย แต่อยากจ่ายแพงในส่วนที่เราคิดว่ามันอาจจะทำให้เขาขาดทุนแน่นอนอยู่ก็จะบอกลูกค้าตรงๆ ว่าทำไม่ได้กำไรแน่ๆ ก็จะไม่ทำให้กับลูกค้า เพราะเราไม่สนับสนุน ถ้าทำแล้วไม่ดี ขาดทุน แบรนด์เขาไม่ประสบความสำเร็จเราก็ไม่ทำให้ เพราะเราอยากให้ทุกแบรนด์ที่เกิดจาก QUALITY PLUS ประสบความสำเร็จ มีเงินเท่าไหร่เข้ามาปรึกษาได้ก่อน เรายินดีบริการให้ฟรี
จุดที่ยังพัฒนาและจุดด้อยของบริษัทมีอะไรบ้าง
อาจจะเรียกว่าเป็นความยังไม่พร้อมของทางบริษัทดีกว่า เพราะว่าจุดด้อยมันอาจจะอยู่กับเราตลอดไปด้วย ขณะนี้มีเรื่องสเกลของโรงงานที่ยังไม่ใหญ่มากพอรองรับลูกค้าที่กำลังจะเข้ามา รวมถึงสเกลธุรกิจเราก็กำลังจะพัฒนาให้ใหญ่เพื่อเป้าหมายระดับอาเซียน เราวางแผนทำตลาดต่างประเทศอยู่ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้คงเป็นเรื่องของการพัฒนาในเรื่องของกำลังการผลิต ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่โดย QUALITY PLUS มีทีมที่ปรึกษาสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเข้ามาวิจัยทัศน์วิสัยและปรับปรุงการผลิตขึ้นใหม่เพื่อให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ตอนนี้เราก็เลยขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น และ กำลังจะสร้างโรงงานใหญ่ขึ้นมาเร็วๆนี้ เพื่อมารองรับฐานตลาด แล้วอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่พร้อมจะมีในเรื่องของ ตอนนี้ลูกค้าคิวยาวมาก ทีม R&D ก็ทำงานหนัก ในส่วนของการพัฒนาสูตร วิธีทำมันอาจจะยุ่งยากและขึ้นอยู่กับประเภทด้วย อนาคตประมาณสิ้นปีเดี๋ยวจะทำเป็น LAB ครบวงจรขนาดใหญ่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ[ ส่วนตัวเอิ๊กมองเห็นอีกข้อในเรื่องของการนำแบรนด์เข้าสู่หลักการวิจัยทั้งส่วนผสมที่เมื่อนำมาปั่นเข้ากัน ว่ามันมีผลลัพธ์ออกมาวัดได้แค่ไหน เนื่องจากเหตุผล นักธุรกิจคนไทยก็ไว ลงทุนเร็ว จากจุดที่กระแสแรง เพื่อให้ได้กำไร ณ จุดนั้นมา ยังไม่มีใครยอมรอให้แบรนด์ตัวเองออกช้ากว่านี้ประมาณ 2-3 ปีโดยทดสอบเหมือนต่างชาติ ที่อาจจะใช้ผิวพรรณมนุษย์จริงๆ เขารอให้มันวัดผลได้เป็น % จริงๆ แล้วถึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่ว่า QUALITY PLUS ทำไม่ได้ เพียงแต่ถ้าพูด ณ ตอนนี้ แบรนด์ที่เขาถืออยู่ทั้งหมด ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนยอมเสียเวลาเข้าทำงานวิจัย เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล เนื่องจากไทยทำ ไทยใช้เอง ก็หวังว่าวันนึงจะมีซักแบรนด์ที่คิดจะไปไกลมากกว่าประเทศตัวเอง และ ยอมอดทนดูสูตรที่พัฒนาและผลิตโดย QUALITY PLUS โดยผ่านกระบวนการเก็บผลทดสอบ มีงานวิจัยออกมาเผยแพร่ให้เห็นถึงระดับ % การเห็นผล แต่งานวิจัยบนโลกก็อาจไม่ตัวแทนของคนทั้งโลก เท่าที่เอิ๊กเคยได้ยินสูงสุดประมาณ 6,000 คน หลากหลายสภาพผิว ]
- Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน)
- Retinoic Acid (กรดวิตามิน A)
- Mercury Compound (ปรอท และสารประกอบของปรอท)
- Steroid
- Betamethasone
- Betamethasone 17-valerate
- Dexamethasone
- Hydrocortisone Acetate
- Prednisolone
- Triamcinolone Acetonide
วิธีทดสอบสารต้องห้ามด้วยตัวเอง
1. ตรวจหาสารไฮโดรควิโนน
ใช้ผงซักฟอกละลายในน้ำปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ได้น้ำผงซักฟอกเข้มข้น หยด หรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยดน้ำผงซักฟอกเข้มข้น ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน หรือ ใช้ 0.1 N Sodium Hydroxide Solution หยดหรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยด 0.1 N Sodium Hydroxide Solution ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน
2. ตรวจหาสารปรอท
ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมง แล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่ามีสารปรอทผสมอยู่
3. ตรวจสอบสารสเตียรอยด์
ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมงแล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่า มีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่
การทดสอบข้างต้น เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นอย่างง่ายๆ โดยใช้หลักการที่ใช้สารละลายที่เป็นด่าง ทำให้ไฮโดรควิโนนเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์
การวิเคราะห์เบื้องต้นตัวอย่างครีมที่มีความน่าจะเป็นครีมอันตราย
ผลิตภัณฑ์ที่ 1 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีน้ำตาลเข้ม มีเม็ดของแข็งสีขาวปนอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Hydroquinone และ สารปรอท เนื่องจากสาร Hydroquinone เป็นสารที่มีความเสถียรต่ำ จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มได้ง่าย ผู้ผลิตที่ผลิตครีมอันตรายจึงมันนิยมปรับให้เป็นสีน้ำตาลเพื่อหลบสีของสารHygroquinone และเม็ดดังกล่าวจากการคาดคะเนน่าจะเป็นสารปรอตเนื่องจาก ปรอทเป็นสารที่ละลายยากจึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด
ผลิตภัณฑ์ที่ 2 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีเขียวอ่อน มีเม็ดสีขาวกระจ่ายตัวอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Retinoic Acid และสารปรอท เนื่องจาก ลักษณะสีเหลืองที่ซึมเข้าฝาบรรจุภัณฑ์น่าจะเกิดจากสาร Retinoic Acid ที่มีสีเหลืองเข้ม และเม็ดที่กระจายอยู่น่าจะเป็นสารปรอทเป็นสารที่ละลายยาก จึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด
การวิเคราะห์ข้างต้น เป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้นอย่างง่าย แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์
ข้อพึงระวังสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าขาวเพราะเป็นฝ้า
สังเกตอาการแทรกซ้อนขณะใช้ ถ้ามีอาการผิดปกติให้เลิกใช้ทันที ฝ้ายังไงก็จะไม่หายขาด เมื่อหยุดยาแล้วเป็นใหม่ได้ จึงไม่ควรเสี่ยงหลงเชื่อคำโฆษณา
ข้อแนะนำในการใช้เครื่องสำอาง
- ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากที่ที่หน้าเชื่อถือและไว้ใจได้
- ตรวจสอบฉลากให้ครบถ้วน ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า วันเดือนปีที่ ผลิต หมด อายุ เป็นต้น
- ปิดฝากระปุกเครื่องสำอางให้เรียบร้อยเมื่อใช้เสร็จเพื่อป้องกันเชื้อโรค
- เก็บเครื่องสำอางไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส
- แปรงหรือฟองน้ำต้องทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่
- สำลีหรือพัฟควรจะเลือกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียว
- ให้ล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนนอน
- หากผิวหน้ามีการติดเชื้อ ก็อาจจะหยุดหรือทิ้งเครื่องสำอางนั้นเสีย เนื่องจากอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียในเครื่องสำอาง
ข้อมูลเพิ่มเติม หรือ รายละเอียดไม่ต้องเกรงใจเขาให้คำปรึกษาฟรีโทรไป หรือ LINE ไปได้เลยใจดี ข้อมูลแน่น ไม่ทำไม่ว่าด้วย :Dแต่เชื่อเถอะว่าฟังปุ๊บ ความฝันอีกหนึ่งอย่างจะผุดเปล่งประกายแบบเอิ๊ก ฮ่าฮ่า089-056-5651
081-563-3322
www.qualityplus.co.th
info@qualityplus.co.th
LINE : nan_QUALITY PLUS
LINE : wuttokunhttps://www.facebook.com/qpaicosmetic
For Question and Answer
Related posts :
2009 DEC
- by www.erk-erk.com.